การตรวจสอบการเกิดเมทาเมอริซึม (Metamerism) ด้วยเครื่องสเปกโตรโฟโตมิเตอร์
เมทาเมอริซึม เกิดขึ้นมื่อวัตถุสองชิ้นที่มีสีเหมือนกันอยู่ภายใต้แหล่งกำเนิดแสงเดียวกัน แต่จะแตกต่างกันเมื่ออยู่ภายใต้แหล่งกำเนิดแสงอื่นๆ ตัวอย่างเช่น เสื้อและกางเกงที่มีสีดำ มองเห็นสีคล้ายกันเมื่ออยู่ภายใต้แสงของร้านค้านั้น แต่จะมองเห็นเป็นน้ำเงินเข้มและสีเทาดำตามลำดับภายใต้แหล่งแสงดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์นี้ส่วนใหญ่มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเม็ดสี(Pigmenrs), วัตถุดิบต่างกัน และชนิดของสูตรผสม(formulation)
จากการเกิดปรากฏการณ์เมทาเมอริซึม (Metamerism) การได้สีที่ถูกต้องและมีความสม่ำเสมอ เป็นสิ่งท้าทายสำหรับผู้ผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีการประกอบผลิตภัณฑ์โดยใช้ชิ้นส่วนต่าง ๆ จากซัพพลายเออร์ที่แตกต่างกันซึ่งแต่ละที่จะมีสูตรสีของตัวเอง ส่งผลทำให้สีที่ได้จะไม่ตรงกัน ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการแก้ไขที่ไม่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการยอมรับของลูกค้าอีกด้วย เพื่อลดหรือป้องกันปัญหาเหล่านี้สิ่งสำคัญคือต้องประเมินสีของวัตถุ เพื่อตรวจสอบการเกิดเมทาเมอริซึม
ดังนั้นการใช้เครื่องมือสเปกโตรโฟโตมิเตอร์ แสดงการสะท้อนสเปกทรัลของแหล่งกำหนดแสงหลายแหล่ง ซึ่งจะเป็นช่วยในการจัดการกับปัญหาที่การเกิดเมทาเมอริซึม(Metamerism) ได้ สเปกโตรโฟโตมิเตอร์ยังสามารถแสดงเส้นกราฟการสะท้อนแสงสเปกทรัลของตัวอย่างทั้งสอง ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งาน ทราบได้เลยว่า สีวัตถุสองชนิดแตกต่างกันอย่างไร วัตถุนั้นเกิดปรากฏการณ์เมทาเมอริซึม(Metamerism)หรือไม่ โดยดูจากการที่ส่วนโค้งของกราฟตัดกันอย่างน้อย 3 ครั้ง
Konica Minolta Sensing ขอนำเสนอเครื่องสเปกโตรโฟโตมิเตอร์ที่หลากหลาย มีทั้งแบบพกพาและแบบตั้งโต๊ะเพื่อตอบสนองความต้องการและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน และเมื่อใช้กับซอฟต์แวร์ควบคุมคุณภาพสี SpectraMagic NX ผู้ใช้จะสามารถดูดัชนีค่าเมทาเมอริซึม(metamerism) MI ค่า MI นั้นเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่าวัตถุนั้นกิดเมทาเมอริซึมหรือไม่
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เมทาเมอริซึม(metamerism) หรือการเลือกเครื่องมือวัดสี สามารถเขียนข้อความถึงเราที่ teamiie@centasiathai.com หรือโทรหาเราที่ 092-384-4664