น้ำมันที่สามารถบริโภคได้ เช่น น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันปาล์ม จะถูกแบ่งเกรดตามระดับการปรับแต่ง การแบ่งเกรดน้ำมันสามารถทำได้โดยการเปรียบเทียบสีกับสีอ้างอิง อย่างไรก็ตามการประเมินสีโดยใช้สายตาอย่างเดียวเป็นเรื่องยากในการแบ่งเกรดสีน้ำมัน ปัจจัยเช่น สภาวะแสง, ขนาดของตัวอย่าง และความเมื่อยล้าของสายตาจะส่งผลต่อการรับรู้สี เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำมันที่สามารถบริโภคได้ มีการแบ่งเกรดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องวัดสีเข้ามาควบคุม
โดยทั่วไปน้ำมันสำหรับบริโภคมีความโปร่งแสงหรือโปร่งใสตามธรรมชาติ ดังนั้นวิธีการวัดสีที่เหมาะสมที่สุดคือการใช้เครื่องวัดสีแบบส่องผ่าน โดยมีการกำหนดค่ามาตรฐาน L*a*b* เพื่อกำหนดค่าอ้างอิงเริ่มต้น และทำการวัดค่าตัวอย่างน้ำมันเพื่อตรวจสอบว่าค่า L*a*b* อยู่ในช่วงที่ต้องการหรือไม่
การใช้เครื่องชั่งในเชิงพาณิชย์ส่วนใหญ่ใช้ในการค้าขายน้ำมัน ในขณะที่เครื่องวัดสี และเครื่องสเปคโตรโฟโตมิเตอร์ ใช้ในการกำหนดค่าสีและวัดสีอย่างแม่นยำ ภาชนะบรรจุน้ำมันสำหรับผู้บริโภคก็จะถูกควบคุมสีอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้สีที่ถูกต้อง โดยมีการใช้เครื่องวัดสีรุ่นโครมามิเตอร์ (Chroma Meter) และ สเปคโตรโฟโตมิเตอร์ (Spectrophotometer) ในโรงงานผลิตจำนวนมาก เพื่อให้ได้สีที่แม่นยำและสม่ำเสมอ
เครื่องวัดสี Konica Minolta รุ่นสเปคโตรโฟโตมิเตอร์ CM-5 มีห้องสำหรับวัดตัวอย่างของเหลวโปร่งแสงและโปร่งใสได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้เครื่องวัดสีรุ่น CM-5 ยังสามารถให้ข้อมูล pass/fail ตามค่าความคลาดเคลื่อนที่ผู้ผลิตกำหนดขึ้น เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้ำมันบริโภคได้มีการแบ่งเกรดอย่างแม่นยำ โดยมีอุปกรณ์เสริมที่หลากหลาย เช่น cuvette และ cell เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถวัดตัวอย่างน้ำมันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่นี่
หากสนใจรายละเอียดสามารถติดต่อ หรือ โทร.02-3613730-7 อีเมล teamiie@centasiathai.com เพื่อขอคำปรึกษาฟรีเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการวัดสีน้ำมันบริโภค
Industries: ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์, สารเคมี, อาหารและเครื่องดื่ม, พลาสติก